ชอบหน้านี้?

ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - ระวังป่วยโรคหืด/หอบหืด และภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ เสี่ยงสูงกับ COVID-19

ข่าวประชาสัมพันธ์ - Press Release


ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - ระวังป่วยโรคหืด/หอบหืด และภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ  เสี่ยงสูงกับ COVID-19
ข่าวโควิด-19 (ยกเลิก) - ระวังป่วยโรคหืด/หอบหืด และภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ  เสี่ยงสูงกับ COVID-19
21.8K เปิดอ่าน

ฟังข่าวนี้

นายแพทย์จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี อาจารย์แพทย์อนุสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก สาขาวิชาอายุรกรรม ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยว่า โรคหืด หรือคนทั่วไปมักเรียกว่าหอบหืด (Asthma) เป็นโรคที่หลอดลมตีบแคบ เนื่องจากหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไวต่อสารกระตุ้นมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีอาการหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก ไอเรื้อรัง หายใจมีเสียงหวีด หากมีอาการรุนแรงอาจถึงชีวิตได้ สิ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดอาการของโรคหืด ได้แก่ สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ไรฝุ่น มลพิษในอากาศ รังแคแมวสุนัข เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ เป็นต้น สภาพอากาศเย็นและแห้ง และจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสต่างๆ

การรักษาโรคหืด ควรต้องได้รับการวินิจฉัยยืนยันจากแพทย์ จากประวัติ การตรวจร่างกาย การถ่ายภาพรังสีปอดเพื่อแยกสาเหตุอื่นๆ ออกไป และการทดสอบสมรรถภาพปอด เมื่อยืนยันการวินิจฉัยผู้ป่วยจะได้รับยาพ่นทางปาก ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ยาพ่นที่ใช้ควบคุมโรคต่อเนื่อง (Maintenance) ป้องกันไม่ให้โรคกำเริบซึ่งจะมียาพ่นชนิดเสตียรอยด์เป็นส่วนประกอบ และยาขยายหลอดลมที่ใช้ฉุกเฉิน (Reliever) เพื่อบรรเทาอาการของโรคเวลาโรคกำเริบ ร่วมกับการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และการรักษาโรคร่วมอื่นๆ เช่น ภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ รวมถึงโรคกรดไหลย้อน

เชื้อ COVID-19 เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อโรคในมนุษย์ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง รวมถึงในลำไส้อาหาร ซึ่งติดต่อทางละอองฝอยน้ำมูก น้ำลาย ( Respiratory droplet) หรือผ่านทางอุจจาระที่ปนเปื้อน (fecal-oral transmission) โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีอาการได้หลากหลาย เช่น ไข้ ปวดเมื่อยตัว ไอ เจ็บคอ เสมหะ จมูกไม่ได้กลิ่น หรือไม่สัมผัสรส ถ่ายเหลว มีหายใจหอบเหนื่อย ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรง เกิดระบบหายใจล้มเหลว มีการอักเสบรุนแรงจนถึงชีวิตได้ อาการช่วงแรกอาจแยกยากกับไข้หวัดจากเชื้อไวรัสอื่นๆ โรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ ตลอดจนโรคหืด อาจต้องอาศัยประวัติความเสี่ยง เช่น การเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง หรือ ประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 มาก่อน และจากประวัติในกลุ่มผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบหรือโรคหืด มักมีการดำเนินโรคที่เป็นมานานหลายอาทิตย์ หรือหลายเดือน โดยที่อาการเป็นพอๆเดิม หากไม่มีสารก่อภูมิแพ้หรือการติดเชื้อมากระตุ้น แต่ผู้ป่วยโรคหืด โรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ มักไม่มีไข้ ไม่มีจมูกไม่ได้กลิ่นหรือไม่สัมผัสรส

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงเกิดประเด็นคำถามของผู้ป่วยกลุ่มโรคหืด และภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบดังนี้

มีความกังวลว่าจะมีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 ได้ง่ายขึ้นไหม : จากข้อมูลทางระบาดวิทยาพบว่าการติดเชื้อ COVID-19 ไม่ได้เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยโรคหืด หรือผู้ป่วยภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ และจากข้อมูลในการระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมาพบว่าจำนวนครั้งการกำเริบฉับพลันของผู้ป่วยโรคหืดลดลง อาจจากที่ผู้ป่วยโรคหืดมีการล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย และมีการทำ social distance ทำให้สามารถกันการติดเชื้ออื่นๆ ที่มากระตุ้นโรคหืดกำเริบนอกจากเชื้อ COVID-19 ได้อีกด้วย

ถ้าผู้ป่วยกลุ่มนี้ติดเชื้อ COVID-19 จะมีความรุนแรง และเพิ่มอัตราการเสียชีวิตเมื่อเทียบกับกลุ่มปกติหรือไม่ ? พบว่าโดยรวมไม่ได้เพิ่มความรุนแรง หรือเพิ่มอัตราการเสียชีวิต ยกเว้นในกลุ่มผู้ป่วยโรคหืดที่คุมอาการไม่ได้จนต้องใช้ยาเสตียรอยด์ชนิดรับประทานหรือฉีด จะทำให้มีความรุนแรงของโรคมากขึ้น และเพิ่มอัตราการเสียชีวิต เพราะฉะนั้นควรคุมอาการของโรคให้ดีเพื่อไม่ให้โรคกำเริบจนต้องใช้ยาเสตียรอยด์ชนิดรับประทานหรือฉีด

ยาพ่นที่ใช้ควบคุมโรค (Maintenance) เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ ซึ่งจะมียาพ่นชนิดเสตียรอยด์เป็นส่วนประกอบ จะกดภูมิคุ้มกันหรือทำให้ติด COVID-19 ง่ายขึ้น หรือรุนแรงขึ้นหรือไม่ ? ไม่ได้ทำให้ติด COVID-19 ง่ายขึ้น และแนะนำว่าควรใช้ต่อเนื่อง ไม่ควรลดยาหรือหยุดยาเพื่อควบคุมอาการของโรคไม่ให้กำเริบ

หากอาการกำเริบจะต้องทำอย่างไร ? แนะนำให้มีการวางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์ในการทำ แผนปฏิบัติการดูแลในยามฉุกเฉิน (Asthma action plan) กับแพทย์ที่ดูแลท่านอยู่ เช่น หากมีอาการเหนื่อยระดับกลาง ให้พ่นยาฉุกเฉิน(Reliever) เพิ่มทุก 15 นาที 3 ครั้ง และหากดีขึ้นให้เพิ่มจำนวนยาพ่นที่ใช้ควบคุมโรค (Maintenance) เป็น 2 สูด เช้า-เย็น เพื่อลดการมาโรงพยาบาล แต่หากมีอาการเหนื่อยจนพูดไม่เป็นคำ ให้รีบพ่นยาฉุกเฉิน(Reliever) และรีบเรียกรถพยาบาลมาโรงพยาบาลในทันที

ทำไมถึงไม่มีการตรวจหัตถการเป่าปอด หรือพ่นยาประเภทฝอยละออง(nebulization) ที่ห้องตรวจโรงพยาบาลในช่วงการระบาด COVID-19 : แพทย์อาจเลี่ยงการตรวจหัตถการเป่าปอดเพื่อตรวจสมรรถภาพปอด และการพ่นยาแบบละอองฝอย (Nebulization) ไปก่อน เพราะการทำหัตถการดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงในการกระจายเชื้อ COVID-19 ในบรรยากาศห้องตรวจได้ หากสงสัยโรคหืดในช่วงนี้แพทย์อาจให้การรักษาไปก่อน และนัดมาตรวจหัตถการเป่าปอดอีกครั้งช่วงสถานการณ์ COVID-19 สงบ

การปฏิบัติตัวอื่นสำหรับผู้ป่วยโรคหืด และภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หลีกเลี่ยงมลพิษในอากาศ เช่น PM2.5 ใช้ยารักษาต่อเนื่องทั้งยาสูดทางปาก ยาพ่นจมูก ล้างจมูก หรือยารับประทาน พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงเว้นระยะห่าง (social distancing) ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปพื้นที่เสี่ยง

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย Haggy ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ นิวส์ไวร์ ประเทศไทย


แสดงความคิดเห็น :