พีอาร์ นิวส์ไวร์ - MINISO นำบรรยากาศคริสต์มาสมาสู่สยามสแควร์ กรุงเทพฯ ด้วย YOYO และคาแร็กเตอร์ซิกเนเจอร์ ส่งท้ายปีแห่งความสำเร็จอย่างโดดเด่นในประเทศไทย

กรุงเทพฯ, 25 ธันวาคม 2568 /PRNewswire/ -- ในช่วงคริสต์มาสนี้ MINISO นำ YOYO และกลุ่มคาแร็กเตอร์ยอดนิยมของแบรนด์มาสร้างสีสันที่สยามสแควร์ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างบรรยากาศเฉลิมฉลองรับฤดูกาลแห่งความสุข และถือเป็นการส่งท้ายปีแห่งความสำเร็จที่แบรนด์เติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย ทั้งนี้ ได้มีการติดตั้งงานตกแต่งธีมคริสต์มาสหลายจุด ซึ่งจะยังคงจัดแสดงทั่วถนนคนเดินในสยามสแควร์ และภายใน MINISO LAND แห่งแรกของประเทศไทยตลอดช่วงเทศกาลวันหยุด ที่จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2569

แม้คริสต์มาสในประเทศไทยจะไม่มีหิมะ แต่ปีนี้ MINISO ได้นำความรื่นเริงของเทศกาลมาสู่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีคาแร็กเตอร์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง YOYO, Gift Bear และ DUNDUN เป็นตัวเอกของของการจัดแสดงตกแต่งในโอกาสเทศกาลวันหยุดตลอดระยะเวลา 10 วัน โดยมีจุดเด่นคือถนนคริสต์มาสยาว 60 เมตร ตลอดเส้นทางประกอบด้วยจุดถ่ายภาพตามธีมจำนวน 5 จุด นำผู้เยี่ยมชมจากสยามสแควร์ไปยัง MINISO LAND และสิ้นสุดที่ต้นคริสต์มาสซึ่งประดับด้วยสัญลักษณ์ขยิบตาสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ MINISO นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีการจัดแสดงและตกแต่งร้านตามเทศกาล ของขวัญรุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน และการ์ดขอพรให้เลือกอีกด้วย

MINISO LAND ที่สยามสแควร์ ถือเป็นการเปิดตัวรูปแบบร้านเชิงประสบการณ์ (experiential store) แบบใหม่ของแบรนด์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยร้านแห่งนี้เปิดให้บริการในเดือนตุลาคม มาพร้อมหน้าร้านดีไซน์ใหม่และนำเสนอไลน์สินค้า Zootopia เป็นไฮไลต์หลัก และตั้งแต่เปิดร้านก็มีนักช้อปในประเทศและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าชมกันอย่างคึกคัก การเปิดร้านครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการมีตัวตนของแบรนด์ MINISO ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน การสร้างการรับรู้แบรนด์ในช่วงต้นปีก็ช่วยวางตำแหน่งร้านให้เป็นศูนย์กลางที่เหมาะสมและโดดเด่นสำหรับการจัดกิจกรรมเทศกาลช่วงปลายปี โดย MINISO เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ภายในร้านให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบเชิงอิมเมอร์ซีฟเพื่อสร้างประสบการณ์ดื่มด่ำ การคัดสรรสินค้าอย่างพิถีพิถัน และการดำเนินแคมเปญที่ขับเคลื่อนอย่างมีกลยุทธ์

ปีแห่งความสุข: การขยายเครือข่ายค้าปลีกและกิจกรรมแบรนด์

ตลอดปี 2568 MINISO เดินหน้าขยายเครือข่ายร้านค้าและมอบความสุขให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ด้วยการผนวกการเปิดร้านใหม่ การเปิดตัวสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ และประสบการณ์แบรนด์ที่สร้างการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง โดยปีนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคมด้วยการเปิดตัวร้านแฟล็กชิปแห่งแรกของแบรนด์ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ในกรุงเทพฯ พร้อมกับการเปิดตัวคอลเลกชันสินค้า Harry Potter ของ MINISO ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ส่วนในเดือนถัดมา MINISO ได้เปิดร้านรูปแบบใหม่และร้านแฟล็กชิปเพิ่มเติมอีกหลายแห่งบนทำเลสำคัญทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ เมกาบางนา, เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ การเปิดร้านแต่ละแห่งนำเสนอสินค้าที่มีธีมจากลิขสิทธิ์คาแร็กเตอร์ชื่อดัง พร้อมการจัดแสดงแบบอิมเมอร์ซีฟเพื่อสร้างประสบการณ์ดื่มด่ำ ดึงดูดผู้คนให้เข้าร้านอย่างคึกคัก และก่อให้เกิดกระแสพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย โดยการเปิดร้านที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิในเดือนพฤษภาคม ยังถือเป็นการเปิดตัวตุ๊กตาไวนิล Stitch GenZ Street Series ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก และได้รับความสนใจจากเหล่านักช้อปอย่างสูง

นอกเหนือจากกรุงเทพฯ แล้ว MINISO ยังได้เสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยการขยายสาขาไปยังจุดหมายทางการค้าสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ การขยายการดำเนินธุรกิจดังกล่าวสะท้อนถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่มุ่งมอบประสบการณ์ร้านค้าที่ได้รับการยกระดับและผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย

กลยุทธ์การเติบโตของ MINISO ยังให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในท้องถิ่นผ่านความร่วมมือกับ IP ยอดนิยม โดยตลอดทั้งปี แบรนด์ได้เปิดตัวคอลเลกชัน IP ใหม่มากกว่า 15 ชุดในประเทศไทย รวมถึง Zootopia, Stitch, Harry Potter และ One Piece ควบคู่ไปกับสินค้าใหม่มากกว่า 5,000 รายการ

ด้วยการผสานการขยายเครือข่ายร้านค้าเข้ากับประสบการณ์และแคมเปญค้าปลีกที่น่าสนใจ MINISO ได้วางตำแหน่งร้านค้าให้เป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวาสำหรับผู้บริโภคชาวไทย โดยโปรแกรมคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งมี MINISO LAND และถนนคริสต์มาสใจกลางกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลาง ได้ช่วยเสริมการรับรู้ของแบรนด์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ พร้อมปูทางสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในปี 2569