ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - CISION PR Newswire
![]() |
อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 26 ตุลาคม 2568 /PRNewswire/ -- His Highness Sheikh Theyab bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan รองประธานสภาประธานาธิบดีด้านการพัฒนาและกิจการวีรชนผู้ล่วงลับ ทรงเป็นสักขีพยานในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีความสามารถในการจ่ายพลังงานหมุนเวียนหลักขนาด 1 กิกะวัตต์ (GW) ได้ตลอดเวลา
สร้างนิยามใหม่ให้ศักยภาพพลังงานหมุนเวียน
โครงการที่นับเป็นครั้งแรกของโลกนี้พัฒนาโดย Abu Dhabi Future Energy Company PJSC – Masdar และ Emirates Water and Electricity Company (EWEC) ตามวิสัยทัศน์ของ His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อพลิกโฉมศักยภาพของพลังงานหมุนเวียน ด้วยการแก้ไขข้อจำกัดในการผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ โครงการนี้ผลิตพลังงานหลักขนาดกิกะสเกลในอัตราค่าไฟฟ้าที่แข่งขันในเวทีโลกได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเข้ามายกระดับมาตรฐานสากลขึ้นไปอีกขั้น พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน
ระบบที่ใหญ่และล้ำหน้าที่สุดในโลกในประเภทเดียวกัน
โครงการนี้จะผสานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (PV) ขนาด 5.2GW เข้ากับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ขนาด 19 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) ซึ่งถือเป็นระบบที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดในโลกในประเภทเดียวกัน โดยมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย อาทิ ระบบการพยากรณ์ที่เสริมศักยภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) การสั่งจ่ายพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับ AI สำหรับการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
ต้นแบบสำหรับประชาคมโลก
เมื่อเริ่มดำเนินการ โครงการนี้จะทำหน้าที่เป็นต้นแบบที่นำไปใช้ได้ทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานสะอาดที่มั่นคง ปลอดภัย และผลิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ฯพณฯ ดร. Sultan Al Jaber รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง และประธานกรรมการของ Masdar กล่าวว่า "Masdar และ EWEC กำลังเริ่มบุกเบิกอนาคตที่กรุงอาบูดาบีแห่งนี้ ด้วยการสนับสนุนอันแน่วแน่จาก His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ His Highness Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและประธานสภาบริหารแห่งอาบูดาบี และภายใต้การเป็นสักขีพยานของ His Highness Sheikh Theyab bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan โครงการระดับกิกะสเกลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการนิยามบทบาทใหม่ของพลังงานหมุนเวียนในยุคข้อมูลข่าวสาร ความก้าวหน้าครั้งนี้เป็นผลลัพธ์จากความเป็นเลิศด้านพลังงานหมุนเวียนที่ทาง Masdar สั่งสมมาตลอดสองทศวรรษ และเป็นเครื่องยืนยันพลังแห่งความร่วมมือในระบบนิเวศพลังงานของอาบูดาบี ในยามที่ทั่วโลกกำลังมองหาแหล่งพลังงานที่มั่นคง ยั่งยืน และราคาที่เอื้อมถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ เพื่อใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนการเติบโต"
Mohamed Jameel Al Ramahi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Masdar กล่าวว่า "พิธีวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้นับเป็นความภาคภูมิใจของ Masdar และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนับเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานสะอาด โครงการนี้ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ยิ่งใหญ่และมีความมุ่งมั่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Masdar เป็นพิมพ์เขียวให้โลกได้เห็นว่าพลังงานหมุนเวียนสามารถจ่ายไฟได้ตลอดเวลา เราก้าวข้ามความท้าทายเรื่องการผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ จนส่งมอบพลังงานยั่งยืนเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอันเป็นผลจากความก้าวหน้าของ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานร่วมกับ EWEC และพันธมิตรของเราอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งมอบโครงการสำคัญนี้ ซึ่งจะเข้ามากำหนดมาตรฐานสากลในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน พร้อมสนับสนุนนานาประเทศในการบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาด"
ขับเคลื่อนยุค AI
เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ โครงการนี้จะจ่ายไฟฟ้าสะอาดขนาด 1GW ได้ต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยอัตราค่าไฟฟ้าที่แข่งขันได้ในเวทีโลก พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 5.7 ล้านตันต่อปี และสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการกระจายแหล่งพลังงาน โรงงานแห่งนี้มีกำหนดเริ่มดำเนินการภายในปี 2570
Ahmed Ali Alshamsi ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Emirates Water and Electricity Company กล่าวว่า "โครงการสำคัญนี้เป็นเครื่องพิสูจน์วิสัยทัศน์ของท่านประธานาธิบดี His Highness Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan และแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของ EWEC รวมถึงพันธมิตรของเรา ในการเริ่มดำเนินการและพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยพลิกโฉมเพื่อสนับสนุนเป้าหมายระดับชาติ โดยกรุงอาบูดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถือเป็นศูนย์กลางระดับโลกในการวิจัย คิดค้นนวัตกรรม และนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้งาน โครงการนี้จึงเป็นหลักประกันว่าความต้องการพลังงานของภาคส่วนสำคัญนี้จะได้รับการตอบสนองอย่างยั่งยืน ซึ่งจะ ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคต่อไป เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Masdar ในโครงการอันเป็นสัญลักษณ์นี้ และเปิดศักราชใหม่ของพลังงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์"
โครงการนี้คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะสร้างงานใหม่ได้มากกว่า 10,000 ตำแหน่ง และทำให้เกิดโรงงานผลิตและบริการใหม่ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โครงการนี้จะจัดหาพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้และมีราคาเข้าถึงได้ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์และเศรษฐกิจดิจิทัล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังผลักดัน AI ให้เป็นเสาหลักสำคัญ ในการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในภาคส่วนนี้ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ค.ศ. 2031 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์แรกในโลก โดยมีการลงทุนในบุคลากรและอุตสาหกรรมที่เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของประเทศ
Masdar ได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้อย่างแข็งแกร่งในแวดวงระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ โดยมีการลงทุนในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงระบบกักเก็บพลังงานแห่งแรกของโลกที่เชื่อมต่อกับฟาร์มพลังงานลมนอกชายฝั่งแบบลอยน้ำ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาในหลายประเทศทั่วโลก Masdar ตั้งเป้าหมายในการมีกำลังการผลิตรวมในพอร์ตโฟลิโอเทคโนโลยีพลังงานสะอาดให้ได้ 100GW ภายในปี 2573
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Masdar ได้ที่ https://www.masdar.ae และเชื่อมต่อกับเราได้ทาง facebook.com/masdar.ae และ https://x.com/Masdar
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EWEC ได้ที่ www.ewec.ae
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2804422/Masdar_Energy_Project_1.jpg?p=medium600
รูปภาพ: https://mma.prnasia.com/media2/2804423/Masdar_Energy_Project_2.jpg?p=medium600
โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2804425/Masdar_Logo.jpg?p=medium600

แสดงความคิดเห็น :