พีอาร์ นิวส์ไวร์ - Cathay United Bank จัดงานสัมมนาภาษีและการลงทุนในเวียดนาม ว่าด้วยผลกระทบด้านภาษีศุลกากรและการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน

ฮานอย, เวียดนาม, 11 กันยายน 2568 /PRNewswire/ -- เพื่อตอบสนองต่อสภาวะทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธนาคาร Cathay United Bank สาขานครโฮจิมินห์ (CUBHCM) ได้จัดงาน "2025 Tax and Investment Seminar: Opportunities and Challenges to Corporates in Vietnam" (งานสัมมนาด้านภาษีและการลงทุน: โอกาสและความท้าทายสำหรับภาคธุรกิจในเวียดนาม ประจำปี 2568) ขึ้นที่กรุงฮานอย งานสัมมนาครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางที่ภาคธุรกิจสามารถรับมือกับความท้าทายด้านภาษีและการลงทุนของเวียดนาม พร้อมทั้งการคว้าโอกาสจากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความตึงเครียดทางการค้าโลกและนโยบายด้านภาษีศุลกากรที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงแต่ได้ปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หากยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก กระแสเงินทุน และการวางแผนด้านภาษีอีกด้วย" Benny Miao รองประธานบริหาร Cathay United Bank กล่าว "เวียดนามมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ในฐานะศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ที่กำลังเติบโต และเป็นฟันเฟืองหลักในห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก ส่งผลให้กลายเป็นจุดสนใจของนโยบายการค้าระหว่างประเทศและกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ"

งานสัมมนานี้ยังได้รับเกียรติจาก Chi-Chao Lin หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Cathay United Bank มาร่วมมอบข้อมูลเชิงลึก โดยได้อธิบายถึงรูปแบบที่แรงสั่นสะเทือนจากมาตรการภาษีศุลกากรกำลังเร่งให้เกิดการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานทั้งในเอเชียและทั่วโลก Lin กล่าวว่า เวียดนามอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการเก็บเกี่ยวประโยชน์จากกระบวนการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานดังกล่าว "เราคาดว่าจะเห็นการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญของภาคการผลิตและการประกอบภายในประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าในท้องถิ่น" เขากล่าว "เวียดนามยังจะเร่งความพยายามในการกระจายตลาดส่งออกให้หลากหลาย โดยมุ่งเน้นไปที่สหภาพยุโรป ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และภูมิภาคอื่น ๆ พร้อมกันนี้ รัฐบาลก็กำลังเพิ่มความเข้มแข็งด้านการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเพิ่มระดับการบังคับใช้กฎว่าด้วยการรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมดูแลกระบวนการติดฉลากและการส่งออก"

VJ Lu ผู้จัดการทั่วไปของธนาคาร CUBHCM ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนในปัจจุบัน "การสัมมนาครั้งนี้เป็นเวทีเพื่อจัดการสนทนาระหว่างผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการได้อย่างเหมาะสมต่อเวลา เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำบริษัท KPMG และเหล่าผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ จากหลากหลายสาขาให้มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของเวียดนามและแนวทางเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความท้าทายเหล่านี้ ผ่านความร่วมมือและการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ เรามุ่งหวังที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและคว้าโอกาสใหม่ ๆ ในเวียดนาม"

การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นตัวอย่างสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของธนาคารในการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการเงินเข้ากับเครือข่ายข้ามอุตสาหกรรม โดยธนาคาร CUB จะมอบข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ส่วน KPMG ก็ร่วมแบ่งปันข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีในเวียดนาม และผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อธุรกิจท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติ

Cathay United Bank ได้ก่อตั้งสาขาแห่งแรกในเขตชูไล (Chu Lai) จังหวัดกว๋างนาม เมื่อปี 2548 ก่อนที่จะย้ายมายังนครโฮจิมินห์ในปี 2565 ปัจจุบัน ธนาคารมีสำนักงาน 3 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ สาขานครโฮจิมินห์ สำนักงานตัวแทนกรุงฮานอย และสำนักงานตัวแทนจังหวัดกว๋างนาม

ในฐานะบริษัทย่อยแห่งสำคัญของ Cathay Financial Holdings ธนาคาร Cathay United Bank ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกลุ่มและวิสัยทัศน์ระดับโลกเพื่อผลักดันการพัฒนาที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นในตลาดต่างประเทศ โดยปัจจุบันเวียดนามเป็นตลาดที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองรองจากไต้หวัน ทั้งนี้ Cathay Financial Holdings ได้ให้บริการลูกค้าในไต้หวันมากว่า 60 ปี และขยายการดำเนินงานไปทั่วเอเชียอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเครือข่าย 969 สาขา พนักงาน 53,000 คน ลูกค้ากว่า 15.3 ล้านราย และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการรวมมูลค่ามากกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับอนาคต ธนาคาร Cathay United Bank สาขานครโฮจิมินห์ จะยังคงเดินหน้าใช้ประโยชน์จากศักยภาพพลังจากการทำงานร่วมกันภายในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าโอกาสจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม ด้วยการยกระดับการให้บริการในท้องถิ่นและเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางการเงินข้ามพรมแดน ธนาคาร Cathay United Bank มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อันดับแรกที่ภาคธุรกิจเลือกใช้ในการขยายกิจการในเวียดนามและภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการก้าวขึ้นเป็นธนาคารภูมิภาคชั้นนำของเอเชีย